หน้าแรก / บล็อก / กูรูล้อLenso / ประเภทล้อแม็กที่ควรรู้!
เมื่อนานมาแล้วก่อนหน้านี้ ผมได้นำเสนอบทความเรื่อง มือใหม่หัดแต่ง ซึ่งเป็นบทความที่แนะนำวิธีเลือกล้อแม็กให้ได้ขนาดและแบบที่ต้องการ แต่ต้องยังมีบางคนที่สงสัยเพิ่มเติม เรื่องวัสดุที่ใช้ทำล้อแม็กว่าแตกต่างกันอย่างไรบ้าง? จัดไปเลยครับกับบทความในวันนี้
ประเภทล้อแม็ก แบ่งออกได้ตามขนาด ประเภทลวดลาย และหัวข้อที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้นั้นก็คือ ประเภทวัสดุ ซึ่งหลักๆแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ ล้อเหล็ก หรือล้อกระทะ ล้อแม็กนีเซียมอัลลอย และล้ออลูมิเนียมอัลลอย
ล้อเหล็ก หรือล้อกระทะ
ล้อแม็กแบบเบสิค ส่วนใหญ่พบในรถรุ่นเก่าๆ หรือรถยนต์รุ่นราคาถูก เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตรถยนต์
ข้อดี -ราคาถูก มีความเหนียว แข็งแรง และปลอดภัยสูง
ข้อเสีย -น้ำหนักมาก มีแบบให้เลือกไม่เยอะ
ล้อแม็กนีเซียมอัลลอย (Magnesium Alloy Wheel)
เป็นที่มาของคำว่า “ล้อแม็ก” ซึ่งเป็นชื่อย่อของคำว่า “แม็กนีเซียม” ส่วนล้อแม็กที่ไม่ใช่ล้อเหล็ก เรียกว่า “ล้ออัลลอย” ล้อแม็กประเภทนี้เกิดขึ้นในสมัยปี 1960 ที่มีการผลิตล้อแม็กนีเซียม เพื่อการแข่งขันรถSuper Car ก่อนจะผลิตขายเป็นล้อแม็กให้คนทั่วไปได้ใช้งาน
ข้อดี -มีน้ำหนักเบากว่า ทำให้รถเคลื่อนที่ได้เร็ว เพราะแรงต้านการหมุนน้อย และน้ำหนักใต้สปริงต่ำ มีแบบให้เลือกหลากหลาย
ข้อเสีย -ราคาแพง เพราะใช้ต้นทุนการผลิตค่อนข้างสูงมาก แข็งแรงน้อยกว่าล้อเหล็ก เหมาะสำหรับการวิ่งในทางเรียบ
ล้ออลูมิเนียมอัลลอย (Aluminum Alloy Wheel)
ล้อแม็กประเภทนี้เป็นแบบที่พัฒนาต่อจากล้อแม็กนีเซียมอัลลอย เพราะต้องการให้ล้อแม็กมีความทนทาน และราคาถูกกว่า และยังแถมด้วยเรื่องดีไซน์ ที่มีแบบให้เลือกหลากหลาย ใช้ได้ในรถหลายประเภท ทั้งรถกระบะ รถเก๋ง รถ SUV
ข้อดี -น้ำหนักเบา ลวยลายสวยงาม มีดีเทลล้อมากกว่า ทำOffset ล้อได้หลายสเปค
ข้อเสีย -มีการผลิตหลายขั้นตอน ทำให้มีราคาแพง
ด้วยเหตุนี้ทำให้Lenso เลือกผลิตล้อแม็กแบบอลูมิเนียมอัลลอย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค สำหรับหลายคนที่กังวลเรื่องราคา ขอบอกเลยว่า ราคาล้อแม็กLenso จับต้องได้แน่นอน ดีไซน์ก็สวยแตกต่างไม่ซ้ำใคร แถมมั่นใจได้เพราะ ล้อแม็กLenso ทุกวงผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมการผลิตในระดับสากล ทั้งมาตรฐานJWL, JWL-T, SAE, TUV ครับ